วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560

โครงสร้างของเส้นผม (Hair Structure)

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาพบกับบทความดีๆเกี่ยวกับเส้นผมกันนะคะ ในวันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกันว่าในเส้นผมหนึ่งเส้นของเรานั้น ข้างในนั้นมันมีอะไรอยู่บ้าง และปัญหาเส้นผมต่างๆที่เกิดขึ้นกับเส้นผมของเรามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
เส้นผมของเรานั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกส่วนที่อยู่ใต้หนังศีรษะ หรือที่เราเรียกกันเรียกว่า รากผม  ส่วนที่สองคือส่วนที่งอกออกมาจากรากผมเราเรียกกันว่า เส้นผม ในแต่ละคนจะมีลักษณะของโครงสร้างของเส้นผมที่ต่างกันไป ทำให้ผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น บางคนผมตรง บางคนผมหยิก ผมหยักศก หรือแม้แต่สีผม บางคนผมสีดำ สีน้ำตาล หรือสีทอง
ในเส้นผม 1 เส้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่



1.       ผิวชั้นนอกสุด หรือเรียกอีกอย่างว่า เกล็ดผม (Cuticle) ประกอบขึ้นจากเซลล์เคราติน ซึ่งมีลักษณะเป็นเกล็ดใสๆเรียงซ้อนกัน ผมชั้นนี้จะช่วยป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่ติดมากับเส้นผมในขณะที่เราใช้ชีวิตประจำวัน  ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ ความมัน หรือฝุ่นละออง เพื่อไม่ให้สิ่งเหล่านี้เข้าไปทำลายเนื้อเส้นผมด้านใน นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผมด้านในไม่ให้เสียความชุ่มชื้นอีกด้วย เกล็ดผมที่ปิดสนิทและเรียบ บ่งบอกถึงสภาพเส้นผมที่ได้รับการบำรุงดูแลอยู่อย่างสม่ำเสมอ ส่วนเกล็ดผมที่ถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นการโดนความร้อน การใช้สารเคมี หรือแม้แต่การใช้แชมพูสระผม ล้วนแต่เป็นการเปิดเกล็ดผมทั้งสิ้น หากเราไม่ได้ทำการบำรุงผมหรือปิดเกล็ดผม ก็จะทำให้เกล็ดผมฉีดขาดและไม่สามารถเรียงตัวได้ ผมจะแห้งเสีย ชี้ฟู จัดทรงยาก ผมดูไม่เงางาม การปิดเกล็ดผมทำได้ด้วยวิธีง่ายๆเช่นการใช้ครีมนวดผมหลังสระผม การทำทรีทเม้นท์ผม เป็นต้น
   การใช้แชมพูสระผม เป็นการช่วยเปิดเกล็ดเส้นเป็นการชำระล้างคราบมันและฝุ่นละอองบนเส้นผม และเพื่อเป็นการเตรียมเส้นผมให้ได้รับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป การใช้ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เป็นการช่วยปิดเกล็ดเส้นผมและบำรุงให้ผมได้รับสารอาหารเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย จะช่วยให้ผมของเราได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกมากกว่าปกติ และยังไม่มีสารเคมีตกค้างบนเส้นผมอีกด้วย ส่วนการใช้เซรั่มบำรุงผม จะช่วยเคลือบป้องป้องให้ผมแข็งแรง มีความเงางาม ผมลื่นไม่พันกัน




2.        เนื้อผม (Cortex) เป็นชั้นผมที่มีความหนามากที่สุด ประกอบด้วยเส้นใยจากโปรตีนและเคราตินเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผมมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น หากเนื้อผมชั้นนี้โดนทำลายก็จะทำให้เส้นผมอ่อนแอ ขาดหลุดร่วงได้ง่าย และทำให้เกิดผมแตกปลาย นอกจากนี้เนื้อผมนั้นยังมีเมลานิน (เม็ดสี) อยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดเป็นสีผมของแต่ละคนไป

3.        แกนผม คือส่วนที่อยู่ในชั้นในสุดของเส้นผม เกิดจากโปรตีนและไขมัน และเส้นมของเราก็ไม่ได้มีแกนผมไปตลอดทั้งเส้น อาจขึ้นเป็นบางช่วงของผมเท่านั้น เส้นผมที่ดีจะมีแกนผมเพื่อเพิ่มความหนาให้กับเส้นผม ส่วนมากจะพบในคนที่มีเส้นผมแข็งแรง คนที่ผมเส้นบางส่วนใหญ่จะไม่มีแกนผม


   เมื่อเรารู้จักโครงสร้างของเส้นผมกันแล้ว เราก็ควรจะใส่ใจกับการดูแลผมให้มากขึ้นนะคะ ในบทความหน้าจะเป็นอะไรนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ในวันนี้ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

10วิธีเด็ด ช่วยขจัดผมแตกปลาย

   สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งตามสัญญานะคะ จากบทความที่แล้วเราก็ได้เขียนเรื่องสาเหตุของการเกิดผมแตกปลายไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูวิธีการกำจัดผมแตกปลายง่ายๆด้วยตัวเองกันค่ะ  ขอบอกเลยว่าเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่ายและสบายกระเป๋ามากๆ แถมเห็นผลได้จริงเลยด้วยค่ะ ไปดูกันเล้ยยย



เล็มผมแตกปลายออก
วิธีแรกเป็นวิธีง่ายๆที่ทุกคนน่าจะทราบกับดีอยู่แล้วนะคะ นั่นก็คือการเล็มผมส่วนที่แตกปลายออกไป เพื่อเป็นการตัดเซลล์ผมที่ไม่สามารถบำรุงได้ออกไป ทำให้เส้นผมที่เหลือได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่เสมือนกับเป็นการให้อาหารเส้นผมและทำให้ผมยาวเร็วด้วยค่ะ

ความร้อนคือสาเหตุหลัก
ความร้อนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอากาศนะคะ แต่เราการใช้อุปกรณ์ให้ความร้อนกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการไดร์ ดัด ม้วนผม หนีบผมตรงต่างๆ เพราะผมของเราจากที่แห้งอยู่แล้วและเมื่อโดนความร้อนผมจะเสียความชุ่มชื้นในทันที จะทำให้เกิดการผมแห้ง ผมขาด และเกิดผมแตกปลายได้ในที่สุดค่ะ

หยุดใช้สารเคมีกับเส้นผม
รองลงมาจากการใช้ความร้อนก็คือการทำสีผม ดัดผมต่างๆ ล้วนแต่เป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างมาก ควรจะงดเว้นการทำสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ผมได้รับการบำรุงและฟื้นฟูอย่างเต็มที่เสียก่อน ค่อยๆเล็มผมส่วนที่แห้งเสียที่เกิดจากการโดนสารเคมีออกเพื่อกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ยาวไวขึ้น

ใช้ครีมนวดผมหลังสระผม
การใช้ครีมนวดผม เป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม  เวลาที่เราไม่ได้ใช้ครีมนวดผม ผมก็จะแข็งกระด้าง แต่หากวันไหนเราใช้ครีมนวดผม ผมก็จะนุ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะในส่วนผสมของครีมนวดมีส่วนช่วยให้ผมชุ่มชื้นขึ้น โดยเนื้อครีมจะไปเคลือบกับเส้นผม ควรเลือกใช้ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและล้างออกให้สะอาด ไม่อย่างนั้นอาจะเจอปัญหาผมร่วงตามมมาได้ค่ะ

ใช้เซรั่มบำรุงผม
การใช้เซรั่มบำรุงผม จะช่วยให้เส้นผมและรากผมแข็งแรงขึ้น ผมของเราจะเงางามสวย เป็นประกาย และยังลดการพันกันของเส้นผม โดยเฉพาะเซรั่มสูตรลดผมแตกปลาย ก็จะช่วยให้ผมไม่เกิดการแตกปลายค่ะ

หมักผมด้วยทรีทเมนท์บำรุงผม
การหมักผมด้วยทรีทเม้นท์บำรุงผมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะยิ่งช่วยบำรุงผมให้ผมได้รับสารอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะกับคนที่ผมทำสี ผมแห้ง ผมชี้ฟู และผมแตกปลาย การใช้ทรีทเม้นท์หมักที่เส้นผมช่วยให้ผมนุ่มสวยถึงแกนผม โดยลงผลิตภัณฑ์ที่ปลายผมไล่มาจนเกือบโคนผม เว้นจากโคนผมประมาณ 2 นิ้วเพื่อไม่ให้เกิดอาการผมมัน จากนั้นใช้นิ้วนวดศีรษะให้ทั่วเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด
 เคล็ดลับเพิ่มเติม   การใช้ทรีทเม้นต์หมักผมสมุนไพร หรือสูตรธรรมชาติ จะช่วยลดการตกค้างของสารเคมีและยังอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะมากกว่าอีกด้วย

อย่าอบไอนน้ำบ่อยๆ
การอบไอน้ำเป็นการใช้ความร้อนกับเส้นผมอีกวิธีหนึ่ง หลายๆคนคิดว่าการอบไอน้ำจะทำให้ผมได้รับการบำรุงก็จริง แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไปนะคะ เพราะผมของเราจะแห้งเกินไปค่ะ อาจจะทำเพียงเดือนละ 1-2ครั้ง โดยใช้ควบคู่ไปกับตัวทรีทเม้ตท์หมักผมก็เพียงพอแล้วค่ะ

หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นสระผม
คนที่มีผมแห้งอยู่แล้ว ยิ่งเราใช้น้ำอุ่มสระผมจะยิ่งทำให้ผมของเราสูญเสียความชุ่มชื้นมากขึ้นไปอีก ใช้น้ำอุณหภูมิปกติสระผมเพื่อให้เส้นผมคงความมีชีวิตชีวา

การหวีผมที่ถูกวิธ
ไม่ควรหวีผมในขณะที่ผมกำลังเปียก เพราะจะทำให้เส้นผมแตกหักและเปราะได้ง่าย และควรใช้หวีซี่ห่างๆในการแปรงผม

 การเช็ดผมให้แห้ง
เพียงแค่ซับผมเบาๆให้ผมแห้ง ไม่ควรขยี้ผมอย่างรุนแรง ผมจะไม่เปราะและขาดร่วงได้ง่าย

   จะเห็นได้ว่าสาเหตุหลักๆของการเกิดผมแตกปลายนั้นมาจากผมแห้งเสียล้วนๆ เพียงแค่เราต้องใส่ใจเส้นผมและดูแลผมอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีด้านบนข้างต้น เพียงเท่านี้เราก็จะมีผมที่สวยงามโดยที่ไม่ต้องไปทำสปาผมแพงๆเลยค่ะ บทความหน้าจะเป็นอะไร อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ส่วนวันนี้ขอตัวไปหมักผมก่อน บ๊ายบายยยยย




วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผมแตกปลายคืออะไร + สาเหตุของการเกิดผมแตกปลาย

             สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งในปัญหายอดฮิตของเส้นผมที่ไม่ว่าจะเป็นสาวผมยาวหรือสาวผมสั้นต้องเจอแทบทุกคนนั้น นั่นก็คือเจ้า ผมแตกปลาย นั่นเองงงง บางคนมีผมแตกปลายมาก แตกน้อย แตกทีเหมือนรากต้นไม้ แล้วเคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมและอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

ผมแตกปลายคืออะไร?

   มันก็คือผมที่เกิดจากชั้นของเซลล์ผมแยกตัวออกจากกัน บ้างก็มีสาเหตุมาจากเส้นผมเปราะบาง รากผมไม่แข็งแรง ผมขาดหลุดร่วงง่าย หรือแม้แต่การการถูกกระตุ้นด้วยสิ่งต่างๆที่เป็นพฤติกรรมของเราเอง  สิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้เซลล์ผมของเราอ่อนแอจนเกิดปัญหาเส้นผมต่างๆตามมาได้ ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของผมแตกปลายด้วยนั่นเอง

สาเหตุที่ทำให้เกิดผมแตกปลาย

1.การโดนสารเคมีบนเส้นผม
         ทั้งการทำสีผม ดัดผม ยืดผม ล้วนแล้วแต่เป็นการใช้สารเคมีลงบนเส้นผมโดยตรงทั้งสิ้น เมื่อเส้นผมของเราโดนน้ำยากัดผม รวมไปถึงการใช้สารเคมีกับเส้นผมเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน เส้นผมก็จะถูกทำลายเข้าไปถึงชั้นแกนผมโดยตรง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวทำลายผมทำให้ไขมันบนเส้นผมขาดออกจากกัน

2. อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อน
       ไม่ว่าจะเป็นการ ไดร์ หนีบ ยืดผม ล้วนแต่เป็นการทำให้ผมอ่อนแอลง  ความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมจะโดนเส้นผมโดยตรงทำให้ผมขาดความชุ่มชื่นอย่างกระทันหัน เมื่อเราใช้อุปกรณ์เหล่านี้บ่อยๆผมของเราก็จะแห้ง ชี้ฟูผมแห้งกรอบ ทำให้แกนผมแยกตัวออกจากกัน จนเกิดเป็นผมแตกปลายได้ในที่สุด

3. การได้รับวิตามินไม่เพียงพอ
        โดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินบี เมื่อเส้นผมไม่ได้รับสารอาหารผมของเราก็จะเกิดปัญหาต่างๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น รากผมไม่แข็งแรง ผมร่วงง่าย ผมแห้งเสีย ผมดูแข็งทื่อ ไม่สปริงตัวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงผมเปราะหักได้ง่าย

4.การยีผมบ่อยๆ
          การยีผมเพื่อจัดแต่งทรงผมเป็นการทำให้เส้นผมของเราเกิดอาการเปราะได้ง่าย แกนผมของเราจะหักออกจากกันทำให้มีโอกาสเกิดผมแตกปลายได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ


   จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดผมแตกปลายนั้นมาจากพฤติกรรมการดูแลเส้นผมของเราที่ไม่มากพอ ซึ่งเป็นการทำร้ายเส้นผมแล้ว เราก็ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผมของเราเสียหายนะคะ  แต่สำหรับใครที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้ บทความหน้าเราจะมาพูดถึงวีธีแก้ผมแตกปลายกัน ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ บ๊ายบายย


วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วิธีกู้ผมเสียจากการทำสีผม ทำแล้วได้ผลจริง

     สวัสดีผู้อ่านทุกๆท่านนะคะ วันนี้เราเอาวิธีกู้เส้นผมพัง ผมเสียจากการทำสี ผมและกัดสีผมมาฝาก เขียนจากประสบการณ์ตรงของตัวเองกันไปเลย 555555 ไม่ได้เป็นกูรูหรือกูรู้ แค่ลองแล้วได้ผลเลยอยากเขียนแชร์วิธีที่ทำแล้วได้ผลจริงๆมาฝากกันค่ะ (อาจมีคำไม่สุภาพบ้างเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านนะคะ)

    ท้าวความนิด จริงๆตัวเองเป็นคนที่ชอบทำสีผมมากกกก ทำตั้งแต่ป. 4 สมัยนั้นนิยมทำไฮไลท์ผม สีโทนทองๆ ช่วงเข้ามอต้น ปิดเทอมก็จัดเต็ม ผมทองทั้งหัว ไม่ว่าจะปิดเทอมเล็กเทอมใหญ่ ก็ทำสีผมตลอด มีกัดผมบ้าง เรียกได้ว่าปีนึงย้อมผมกันสามถึงสี่ครั้งเลยทีเดียว พอขึ้นมหาลัยเทรนผมสีครึ่งหัวเริ่มมา แล้วมีหรือคนที่ชอบทำสีผมอย่างเรานี่จะพลาด ก็จัดการไปกัดผมและย้อมเลยค่าา ครั้งนั้นเรียกได้ว่าผมโดนน้ำยากัดจนยับเยิน แรกๆ(คิดเอาเอง)ผมก็สวยอยู่หรอกเพราะกำลังเห่อสีผมใหม่ ผ่านไปเดือนสองเดือนสีผมเริ่มจาง ผมก็แห้งกรอบลงทุกวันๆ ถึงขั้นผมบางเส้นบางจนเวลาออกแดดจะเหมือนวุ้นเส้นย้อมสี ผมที่งอกใหม่ก็แข็งๆ ดูไม่แข็งแรง (ก็แน่สิ ผมงอกใหม่ก็ย้อมอีก) จุดนั้นเลยมานั่งคิด ไม่ได้ละถ้าไม่ดูแลผมอีกหน่อยผมไม่เหลือบนหัวแน่นอน 555555555 พยายามหาวิธีกู้สภาพเส้นผม เสิร์ชกูเกิ้ลว่าอะไรก็ลองทำตามนั้น เรียกว่าลองผิดลองถูก จนมาพบทางสว่างให้กับตัวเอง กว่าจะกลับมาเป็นอย่างทุกวันนี้เรียกว่าใช้เวลาเป็นปีกันเลยทีเดียว 55555555 เกริ่นมาเยอะ มาดูกันว่าใช้วิธีไหนแล้วเห็นผลจริงบ้างดีกว่าค่ะ

1.เลิกใช้ความร้อนกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการหนีบ ไดร์ ดัด ปกติจะไดร์ผมด้วยลมร้อนเพราะผมจะแห้งไว แต่พอใช้ไดร์เป่าผมแล้วพบว่าผมกระด้าง แห้งกรอบ ผมชี้ฟู ก็เลยเลิกใช้ไดร์แล้วเป่าพัดลมแทน เพื่อให้ผมของเราไม่เสียความชุ่มชื้นมาก

2. เล็มผมแตกปลายออก ผมแตกปลายก็เหมือนผมที่ตายแล้วฟื้นฟูไม่ได้ พอบำรุงผมไปแทนที่ผมเราจะได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ผมที่แตกก็จะไปแย่งสารอาหาร จึงทำการเล็มมันออกไปซะ ส่วนตัวคือตัดออกไปเลยค่ะ เอาผมแห้งๆออก เพราะตัวเองรับสภาพผมไม่ได้สุดๆ ผมที่งอกมาใหม่ปลายผมก็ยังแห้งอยู่ เหมือนได้รับการบำรุงไม่มากพอ ตอนนั้นก็ยังไม่หยุดทำสีผมนะ ก็ทำเรื่อยๆ สามเดือนครั้ง แต่จัดการผมที่แตกออกดีกว่า ผมที่เหลือจะได้รับการบำรุงอย่างเต็ม

3. ครีมนวดผม ช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่นขึ้น ผมไม่ค่อยกระด้าง ลดผมชี้ฟู แต่การใช่ครีมนวดเหมือนเป็นการใช้สารบำรุงผมมาเคลือบเส้นผมบางๆมากกว่า ส่วนตัวคิดว่ายังไม่สามารถบำรุงผมเข้าไปถึงแกนผมได้ บวกกับเป็นคนผมมัน ก็เลยลงครีมนวดแค่ช่วงปลายๆผม ทีนี้เหมือนโคนผมไม่ได้บำรุง เส้นผมที่งอกมาใหม่ๆก็เลยจะดูบอบบางซะเหลือเกิน

4. ทรีทเม้นต์ผมสัปดาห์ละ1-2ครั้ง ลองมาหมดทั้งสปาร้านทั้งหมักผมเอง แต่ก็นะเป็นคนมีบ่วงต้องเปย์ผู้ ครั้นจะไปจ่ายเงินแพงๆทำสปาผมก็ไม่ไหวอ่ะ ก็เลยหาครีมหมักผมตัวไหนที่โอเคกะเส้นผมเราหลายๆแบรนด์มาลองใช้ดู โดยมีข้อแม้เพียงอย่างเดียวว่า "หมักผมไปแล้วผมเราต้องห้ามมันเยิ้ม!!" ลองมาหลายยี่ห้อหลายแบบ ตัวที่โอเคสุดคือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติ เพราะคิดว่าผมเราน่าจะเจอกับสาเคมีในน้ำยาย้อมผมมามากและ ก็เลยอยากใช้อะไรที่เป็นธรรมชาติดูบางมาบำรุงผม การหมักผม และแล้วเราก็พบว่าทรีทเม้นต์ผมนี่แหละเป็นตัวช่วยบำรุงผมมากที่สุด แกนผมจะได้รับสารอาหารเต็มที่เพราะเนื้อครีมจะเข้มข้นกว่าครีมนวดผม ผมจะนุ่มมากกว่าปกติ เส้นผมดูชุ่มชื้นขึ้น ผมนุ่มลื่น ลดผมแห้งกระด้าง ผมชี้ฟู ที่สำคัญ หนังศีรษะไม่มันเพิ่มจ้าาาา

5. เซรั่มบำรุงผม การใช้เซรั่มบำรุงผมจะเป็นตัวที่ช่วยเคลือบผมอีกชั้น จริงๆตอนแรกๆไม่ได้ใช้เซรั่มบำรุงผมอ่ะเพราะเป็นคนผมมันขั้นสุด กลัวผมจะมันหนักกว่าเดิม แต่พอมาใช้เซรั่มออโรร่า ใช้แล้วมันไม่มันเว้ยยยยแกร ผมนุ่มลื่นมากกว่าเดิม ผมหวีง่ายไม่พันกัน ผมทิ้งตัวสวย ขนาดนั่งมอไซด์ใช้หวีสางๆผมยังเข้าทรงอ่ะบ้าจริง55555 แถมสีผมเป็นประกายเงางามเวลาออกแดด ราคาก็ไม่แพงเลย คุ้มค่ากับราคามากๆ พูดได้เลยว่าตอนนี้ติดเซรั่มตัวนี้มาก ขาดไม่ได้ วันไหนไม่ได้ใช้จะรู้สึกไม่สบายหัว หงุดหงิด งุ่นง่านกันเลยค่ะซิสส

อีกอย่างคือพบว่าพอทำสีผมเข้มๆจะช่วยดูหลอกตาว่าว่าบ้าแกรรรร ผมเราก็ไม่ได้แห้งกรอบกรังขนาดนั้น 555555555555


รูปประกอบด้านซ้ายคือผมที่กัดสี จริงๆทำปลายผมสีแดงแต่สีผมลอกออกหมดและ ส่วนด้านขวาคือผมตอนปัจจุบัน


ป.ล. ปัจจุบันก็ยังเสพติดการย้อมผมอยู่เด้ออ ย้อมเรื่อยๆแต่ไม่มีผมแตกปลายสักเส้น แถมผมมีน้ำหนักไม่ค่อยแห้งชี้ฟูด้วยค่ะ ยกความดีความชอบให้ทรีทเม้นต์หมักผมและเซรั่มออโรร่าเลยจ้าา ของถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ #ตัวไหนดีก็ว่าดี  
หากเพื่อนๆคนไหนมีวิธีดูแลเส้นผมทำสีก็นำมาแชร์มาแบ่งปันกันได้นะคะ ฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่จ้าาา บ๊ายบายยยยย

วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ความจริงที่ต้องเจอเมื่อเรา 'ทำสีผม'

         เมื่อยุคเปลี่ยนสมัยเปลี่ยน แฟชั่นการแต่งตัว ทรงผม หรือแม้แต่สีผมก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา วันนี้เราจะมาพูดถึง การทำสีผม กันค่ะ ซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้สิ่งอื่นๆเลยค่ะ บางคนทำสีผมเพราะต้องการเปลี่ยนลุคตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง หรือแม้แต่การทำสีผมเพราะต้องทำงาน  เชื่อหรือไม่คะว่าการทำสีผมนั้นบ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวคุณได้ แต่การทำสีผมนั้นต้องแลกมากับอะไรบ้างไปดูกันค่ะ



        ยาย้อมผมที่เราใช้กันนั้นส่วนมากจะเป็นแบบสีติดทนถาวร เพราะจะทำให้สีผมติดทนทานไปหลายเดือน ช่วยปิดผมขาวหรือได้สีผมใหม่ตามที่เราต้องการ ในส่วนผสมของยาย้อมผมประเภทนี้จะมีเจ้าสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า  สารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ซึ่งจะทำหน้าที่กัดผมชั้นนอกของเราให้หลุดออก เหมือนเป็นการเปิดเกล็ดเส้นผมทำให้เม็ดสีที่อยู่ในน้ำยาย้อมผมติดบนเส้นผมของเรา และสารอีกตัวหนึ่งที่พบได้ในน้ำยาย้อมผมชนิดนี้คือ แอมโมเนีย ซึ่งเจ้าตัวนี้จะเป็นตัวช่วยเคลือบให้สีผมติดทนมากยิ่งขึ้น เมื่อลองอ่านดูแล้วก็คงจะเกิดคำถามในใจกันใช่ไหมคะว่า ถ้ามันช่วยให้สีผมติดขนาดนี้ แล้วมันจะเกิดผลเสียอะไรกับผมของเราบ้างมาดูกันเลยค่ะ



1.        เส้นผมจะแห้ง กรอบ เนื่องจากสารเคมีที่อยู่ในน้ำยาย้อมสีผม จะเข้าไปกัดเส้นผมเพื่อเป็นการเปิดเกล็ดเส้นผม เพื่อให้สีย้อมผมติดอยู่บนผมของเรายาวนาน ยิ่งเราทำสีมากและบ่อยเท่าไหร่ ผมเราก็จะยิ่งแห้ง กรอบเหมือนไม้กวาดมากเท่านั้น



2.       ผมแตกปลาย เมื่อผมเราแห้งกรอบแล้วสิ่งที่จะตามมาก็คือผมแตกปลาย เพราะในขณะที่เราทำสีผม สารอาหารเข้าไปเลี้ยงผมไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดผมแตกปลายได้



3.       ผมเส้นบาง ผมลีบ และขาดง่าย เมื่อผมเราโดนสารเคมีเข้าไปทำลายมากๆเข้า ผมเราก็จะอ่อนแอ ทำให้ผมเส้นบางลงและเกิดการผมขาดได้ง่ายมากกว่าปกติ



4.       ผมชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าการทำสีผมนั้นทำให้ผมเกิดการเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากส่วนผสมในย้ำยาจะเข้าไปทำปฎิกิริยากับเส้นผมเพื่อให้สีผมติดทน จึงทำให้ผมของเราชี้ฟู และไม่มีน้ำหนัก ผมไม่เงาสวย



5.        น้ำยาย้อมผมสามารถกัดหนังศีรษะของเราจนเป็นแผลได้ ดังจะพบในหลายๆคนว่าทำไมเวลาเราย้อมผมหรือกัดสีผมจะแสบหนังศีรษะและมีสะเก็ดแผ่นสีขาวๆเล็กๆติดที่โคนผมหรือเส้นผม หรือบางคนถึงขั้นแพ้ เป็นตุ่มแดง หากมีการตกค้างของสารเคมีมากๆเข้าล่ะก็ อาจะเกิดอาการ โพรงผมอักเสบได้

6.       หากใช้น้ำยาย้อมผมบ่อยๆจะทำให้สารเหล่านี้เกิดการสะสมเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาของเส้นผมต่างๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาการผมร่วง  รากผมไม่แข็งแรง ยิ่งหากทำสีผมบ่อยๆถี่ๆมากๆเข้าก็อาจเกิดการสะสมของสารเคมีจนอาจกลายเป็นโรคมะเร็งหนังศีรษะได้

  เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าผลเสียของการทำสีผมมีมากขนาดไหนเรียกได้ว่าเป็นดาบสองคมกันเลยทีเดียว ในเมื่อเราห้ามการทำสีผมไม่ได้ ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงเส้นผมสำหรับผมทำสีดีๆสักตัวมาช่วยดูแลผมของคุณกันสิคะ อาจเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติเพื่อลดปัญหาการเกิดสารเคมีตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น การใช้ ทรีทเมนต์หมักผมออโรร่าไทยเฮิร์บของเรา  จะช่วยให้ผมไม่แห้งฟู ทำให้ผมมีน้ำหนัก ทิ้งตัวสวย แก้ปัญหาผมแตกปลายสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เสมือนการเติมสารอาหารให้เส้นผม เพียงหมักผมทิ้งไว้ 15-30 นาที หรือใช้คู่กับการอบไอน้ำ ยิ่งใช้คู่กับ เซรั่มออโรร่าไทยเฮิร์บ ซึ่งจะช่วยบำรุงให้ผมลื่นสวย ผมเป็นเงาประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ผมไม่พันกัน ช่วยให้สีผมเด่นชัดมากยิ่งขึ้น แถมหมดปัญหา ผมแห้ง ผมแตกปลาย อีกด้วยค่ะ เพียงเท่านี้เราก็สามารถสนุกกับการทำสีผมโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาต่างๆได้แล้วค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สาเหตุการเกิดผมมัน และวิธีขจัดผมมัน

 เคยรู้สึกเบื่อไหมคะ? กับการที่เราสระผมโดยที่ยังไม่ทันข้ามวัน ผมก็มันเยิ้ม จับตัวกันเป็นก้อนซะแล้ว แถมผมยังลีบแบน จัดทรงยากอีกต่างหาก เวลาไปไหนหรือถ่ายรูปทีก็เล่นเอาลดความมั่นใจลงไปเยอะเหมือนกัน  เรามาดูกันค่ะว่าสาเหตุที่ผมมันนั้นเกิดจากอะไรบ้าง ทำยังไงถึงจะลดอาการผมมันได้ ไปดูกันค่ะ


 ผมมัน….เกิดขึ้นได้ยังไงนะ??
     ผมมันนั้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น 
- กรรมพันธุ์
- ฮอร์โมนไม่สมดุลทำให้ต่อมไขมันรอบหนังศีรษะผลิตไขมันออกมาเป็นจำนวนมาก 
- สภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้น หรือมีอากาศร้อนมากๆ 
- การรับประทานอาการที่มีแต่ของมันๆทอดๆ
- การใช้สารเคมีกับเส้นผมบ่อยๆเช่น เจลแต่งผม สเปรย์แต่งผม แว๊กส์ 
- แม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ 


  สาเหตุที่ผมมัน นั้นเป็นเพราะหนังศีรษะของเราขับไขมันออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ไขมันเหล่านี้ไปเกาะติดที่เส้นผมทำให้ผมของเรามันตามไปด้วย จึงเกิดเป็นอาการมันของเส้นผม และนำไปสู่อาการ ผมร่วง ได้ในที่สุด  สาเหตุมีการเกิดผมร่วงเพราะผมมัน เนื่องมาจากไขมันที่ถูกสร้างขึ้นมาบริเวณรากผมจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็งๆ ทำให้ไปรบกวนการหล่อเลี้ยงของเลือดที่เลี้ยงไปยังเส้นผม เมื่อเลือดเหล่านี้ถูกรบกวนทำให้ผมขาดสารอาหารไปเลี้ยงไม่เพียงพอจึงทำให้เกิดผมร่วงได้ค่ะ


    เมื่อเรารู้ถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดผมมันแล้ว เราลองมาดูกันค่ะว่า วิธีลดผมมัน มีอะไรบ้าง ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่าแต่ละวิธีเป็นวิธีง่ายๆ ทำตามได้ไม่ยาก 



  วิธีขจัดผมมัน ….มีอะไรบ้าง??
1. สระผมวันละหนึ่งครั้ง หรือวันเว้นวัน เพื่อเป็นการขจัดไขมันและสิ่งสกปรกบนเส้นผมและหนังศีรษะ  แต่หากสระผมบ่อยมากเกินไปหนังศีรษะจะยิ่งแห้งทำให้ต่อมไขมันก็จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมากและยิ่งเป็นการทำให้ผมมันไวยิ่งขึ้นค่ะ 
2. การใช้ครีมนวดเพื่อบำรุงผม สามารถใช้ครีมนวดผมได้แต่ให้ลงเฉพาะที่ปลายผมเท่านั้น เพราะครีมนวดมีส่วนผสมที่ทำให้ผมนุ่มลื่น ผมมีน้ำหนัก หากใช้ครีมนวดลงบนหนังศีรษะโดยตรงก็จะเป็นการเพิ่มความมันให้กับหนังศีรษะมากขึ้นไปอีกค่ะ 
3. เลือกใช้แชมพูที่มีสูตรอ่อนโยน สูตรธรรมชาติ ไม่ผสมสารเคมี และไม่มีซิลิโคนผสม หรือใช้แชมพูสูตรสำหรับลดผมมันโดยเฉพาะ
4. การล้างผมด้วยน้ำเย็น หรือน้ำธรรมดาตามอุณหภูมิจะช่วยลดความมันของเส้นผมและหนังศีรษะได้  เนื่องจากน้ำเย็นจะช่วยปิดเกล็ดผมและช่วยปิดรูขุมขนบนหนังศีรษะ และยังเป็นการช่วยรักษาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะได้ค่ะ
5. การหวีผมบ่อยๆจะมีผลดีกับคนที่ผมแห้งเสีย แต่สำหรับคนที่มีผมมันอย่างเราๆ ไม่แนะนำให้หวีผมบ่อยๆนะคะ เพราะการหวีผมจะช่วยให้หนังศีรษะถูกกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงาน ทำให้ไขมันผลิตออกมามากเกินไปค่ะ
6. การรับประทานอาหารเป็นอีกส่วนนึงที่สามารถช่วยลดผมมันได้ ควรหลักเลี่ยงอาหารมันๆทอดๆ ทานอาหารที่มีวิตามินบี เกลือแร่ให้มากขึ้น เช่น ผักใบเขียว นมถั่วเหลือง พืชตระกูลถั่ว และเน้นดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นค่ะ
7. ความเครียด ความกังวล เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เกิดการกระตุ้นให้ต่อมไขมันบนเส้นผมและหนังศีรษะทำงานมากเกินไปนะคะ เฉพาะฉะนั้นห้ามเครียดจ้า ทุกปัญหามีทางแก้นะคะ^^
8. หลีกเลี่ยงการใช้เจลใส่ผม แว๊กส์ หรือสเปรย์แต่งผมนะคะ เพราะสิ่งที่กล่าวมานี้มีส่วนที่ทำให้ผมมันค่ะ

  มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงจะสงสัยกันว่า แล้วแชมพูออโรร่าของเราล่ะ เกี่ยวข้องอย่าไงรกับอาการผมมัน? แชมพูออโรร่าไทยเฮิร์บของเราล่ะช่วยลดอาการผมมันได้ไหม? คำตอบคือ ได้ค่ะ เพราะแชมพูของเราเป็นแชมพูสูตรสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีน ซึ่งสมุนไพรบางชนิด เช่น มะกรูด เหอโส่วอู มีสรรพคุณช่วยลดอาการผมมัน ปรับสมดุลของหนังศีรษะ และไม่มีสารซิลิโคน สารเพิ่มฟอง หรือสารเคมีต่างๆที่จะทำให้เกิดการตกค้างบนหนังศีรษะ  นอกจากนี้ยังช่วยชำระคราบมันและฝุ่นละออนบนเส้นผมของเราได้อย่างสะอาด หมดกังวลเรื่องปัญหาผมมันได้เลยค่ะ

 
   เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความเกี่ยวกับผมมัน  หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆที่มีผมมันหรือกำลังมองหาทางรักษาผมมันนะคะ หากเพื่อนๆคนไหนอยากรู้เกี่ยวกับปัญหาเส้นผมในแบบอื่นๆสามารถคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะคะ หากมีโอกาสจะมาเขียนบทความให้ได้อ่านกันอีกค่ะ บทความหน้าจะเป็นอะไรนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะคะ บ๊ายบายยยย

วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

นอนหลับขณะที่ผมเปียก ได้มั้ยนะ??

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับการนอนหลับในขณะที่ผมเปียกมาฝากกันค่ะ  เคยมั้ยคะที่สมัยตอนเราเด็กๆ พวกผู้ใหญ่จะบอกว่าเวลาสระผมให้เป่าผมให้แป้ง ห้ามนอนเลย เพราะจะทำให้ปอดบวมได้ เพื่อนๆเชื่อคำเหล่านี้กันมั้ยคะ? เรามาดูกันค่ะว่าถ้าเราขอขเลย ในขณะทีผมเปียกอยู่ จะส่งผลอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ



1.        1. เมื่อเรานอนหลับในขณะที่ผมเปียก ความชื้นที่อยู่ในเส้นผมสามารถทำให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบและทำให้เกิดอาการคันบนหนังศีรษะได้ค่ะ อาการคัน ส่วนใหญ่จะเกิดการความชื้นบนหนังศีรษะ เพราะหนังศีรษะจะแห้งยากกว่าการเป่าผมให้แห้ง จึงทำให้เกิดอาการชื้นขึ้น เป็นต้นเหตุให้เกิดอาการคันบนหนังศีรษะได้ค่ะ


1.       2. รังแค หนังศีรษะที่ชื้นจะไปรบกวนต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้น จึงเกิดการทำลายความสมดุลของหนังศีรษะ เป็นผลทำให้เกิดรังแคค่ะ



1.       3. เส้นผมหัก เมื่อเรานอนทับเส้นผมที่เปียกชื้น จะเป็นการทับเส้นผม ทำให้เส้นผมมีโอกาสแตกหักได้มากที่สุด



   4. ปวดหัว รู้หรือไม่ว่า การนอนหลับในขณะที่ผมเปียกสามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ 
เนื่องจาก
          ในระหว่างที่เรานอนหลับนั้น ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อเจอกับผมในขณะเปียกซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ        สามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้




   5.ผมเหนียว ผมพันกัน  โดยเฉพาะคนที่มีผมยาว ควรหลีกเลี่ยงการนอนหลับในขณะผมเปียก เพราะคนผมยาวจะมีโอกาสที่ผมจะพันกันมากที่สุด


6.การติดเชื้อ หมอนที่เราใช้นอนทุกวัน เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี 
ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ  น้ำมันจากเส้นผม  หรือแม้แต่พวกไรฝุ่นที่เรามองไม่เห็น เมื่อผมของเราเปียกชื้นและนอน ความชื้นจากเส้นผมจะทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น


  เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความที่นำมากฝากกันนั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะคะ
       หากใครที่กำลังอ่านบทความนี้แล้วไม่เช็ดผมให้แห้งตอนนอน รีบไปเช็ดโดยด่วนเลยนะคะ หรือสำหรับ
       ใครที่ชอบนอนขณะผมเปียก ก็อย่าลืมเช็ดผมให้แห้งก่อนนอนกันนะคะ 
       บทความหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^